เรียนภาษาอังกฤษกับ Engvid.com ( ฉบับภาษาไทย)

Blog Archive

TEST

Test Feature Post

Monday, April 27, 2015

ระดับ Beginner # ศัพท์ภาษาด้านการแพทย์

No comments :




ศัพท์ด้านการแพทย์ในภาษาอังกฤษ

ความเจ็บป่วยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ

1. Injury ลักษณะอาการบาดเจ็บที่เกิดกับ "ร่างกาย" เช่นเกิด กระดูกหัก ผิวหนังเป็นผื่นคัน
2. Illness ความเจ็บป่วยที่เกิด "ภายนอก" ร่างกาย แต่มักเป็นในระยะเวลาสั้นๆ เช่น เป็นไข้ ไม่สบาย 2-3 วัน เป็นต้น
3. Disease  โรคภัยไข้เจ็บหรือความเจ็บป่วยที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตในท้ายที่สุดได้ ซึ่งบางโรคก็สามารถรักษาได้ บางโรคก็รักษาไม่ได้

Injury

- Wound บาดแผล
- Burn แผลไหม้ รอยไหม้ ที่เกิดจากของร้อน เช่น ที่เกิดจากน้ำมันในกระทะกระเด็นใส่
- Break แผลแตกหัก เช่น ขาหัก แขนหัก
- Sprain อาการเคล็ดขัดยอก เช่น ขาแพลง ข้อเท้าเคล็ด 
- Swollen บวม เช่น เวลาขาแพลงขึ้นมามักจะมีอาการ "บวม" เกิดขึ้น

Illness / Sickness

- Cold ไม่สบาย ซึ่งอาจมีอาการไอ (Cough)" หรือ จาม (Sneezing) ร่วมด้วยก็ได้
- Flu ไข้หวัด หรือ ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) 
- Bug ในบริบทนี้หมายถึง Virus (เชื้อไวรัส)

Disease

- Chronic เรื้อรัง เช่น Chronic disease โรคเรื้อรัง
- Benign เนื้องอก (ที่ไม่เป็นอันตราย)
- Terminal เช่น Cancer is a terminal disease. มะเร็งเป็นโรคที่ทำให้เสียชีวิตในท้ายที่สุด


Heal รักษา ใช้กับกลุ่ม Injuries
Remedy รักษา/เยียวยา ใช้กับ illness 
Treat รักษา/บำบัดรักษา/รักษาเยียวยา และ Cure รักษาเยียว ใช้กับ disease


คำศัพท์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ได้แก่
Doctor หมอ / แพทย์
Physician แพทย์
Pediatrician กุมารแพทย์
MD ย่อมาจาก Medical Doctor แปลว่า แพทย์ เช่นเดียวกัน

อย่าลืมไปแบบทดสอบตามลิงก์ของ Engvid.com กันด้วยนะครับ





หมายเหตุ

ที่มา:  http://www.engvid.com/learn-medical-vocabulary-in-english/
ระดับผู้เรียน: Beginner
อาจารย์ผู้สอน: Adam
หมวดหมู่: Vocabulary
Tag: ศัพท์การแพทย์, คำศัพท์แพทย์, คำแปล, แปลว่า, ศัพท์แพทย์,

แปลและเรียงเรียงโดย: ทีไอเอส คอมมิวนิเคชั่น


Sunday, April 26, 2015

ระดับ Beginner # “Dress up” or “Get dressed”?

No comments :



ความแตกต่างในการใช้ "Dress up” และ “Get dressed"


Dress up ใช้กรณีที่ "แต่งกายอย่างเป็นทางการ" อาทิ ไป งานแต่งงาน งานพิธี งานเลี้ยงรับรอง งานปาร์ตี้ เป็นต้น

ประโยคตัวอย่างเช่น

It's your mom 50th anniversary birthday!,  You should dress up.
งานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิด 50 ปีของแม่นายหน่ะ นายน่าจะแต่งตัวให้มันภูมิฐานเป็นทางการซักหน่อย

Do you dress up for Halloween?
เธอแต่งตัวไปงานเลี้ยงฮาโลวีนหรือปล่าว 


Get dressed หมายถึง สวมใส่เสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกาย ใช้กรณีทั่วๆ ไป เช่น สวมเสื้อผ้าไปโรงเรียน ไปทำงาน ไปทำธุระนอกบ้าน เป็นต้น 

Get dressed! We're running late now.
คุณแม่ๆ มักจะใช้กันบ่อย กรณีเร่งให้น้องๆ รีบแต่งตัวสวมเสื้อผ้า ไม่งั้นก็ไปโรงเรียนสายแน่ๆ

I get dressed after I take a shower.
ฉันสวมเสื้อผ้าเมื่ออาบน้ำเสร็จ

แล้วอย่าลืมไปทดสอบทำ Quiz ในลิงก์ของ Engvid กันนะครับ


หมายเหตุ

ที่มา:  http://www.engvid.com/dress-up-get-dressed/
ระดับผู้เรียน: Beginner
อาจารย์ผู้สอน: Alex
หมวดหมู่: Grammar, Vocabulary

แปลและเรียงเรียงโดย: ทีไอเอส คอมมิวนิเคชั่น








ระดับ Beginner: 10 Easy English Commands (10 วลีในภาษาอังกฤษ)

No comments :

10 Easy English Command 
(10 วลีง่ายๆ ในภาษาอังกฤษ)

For: Beginner (ผู้เรียนภาษาอังกฤษระดับเริ่มต้น)

Cheer Up เช่น หากคุณเห็นใครบางคนรู้สึกเศร้า คุณอาจพูดประโยคว่า "Cheer up! Be happy" มักจะใช้วลีนี้ในการให้กำลังใจ

Wait Up หมายถึง "รอเดี๋ยว" เช่น เพื่อนร่วมงานอาจกำลังออกไปทานข้าวกลางวันกัน แต่คุณกำลังติดพันงานบางอย่างอยู่ ก็อาจจะตะโกนบอกไปว่า "Wait up, folk!" เฮ้ย รอเดี๋ยวดิ

Hurry Up
หมายถึง เร็วๆ หน่อย หรือ ไวๆ หน่อย ใช้ในสถานการณ์ เช่น ถ้ากลัวเด็กๆ ที่บ้านไปโรงเรียนสาย ก็อาจจะเร่งเค้าให้แต่งตัวไวหน่อย เช่น  Hurry up! We gonna be late. เร็วๆ หน่อย เดี๋ยวก็สายกันพอดี

Listen Up หมายถึง ตั้งใจฟังหน่อย ใช้ในกรณีอยากให้ผู้คนรอบข้างหรือคนที่อยู่ตรงหน้าตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้พูดกำลังจะพูด เช่น คุณครูมักพูดหน้าห้องที่มีเสียงนักเรียนเจี๊ยวจ๊าวกันบ่อยๆ ว่า Listen up! เด็กๆ เมื่อได้ยินเสียงคำนี้ก็มักจะเบาเสียงลงตั้งใจฟังคุณครูกัน

Calm Down หมายถึง ใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์ไว้ก่อน มักใช้ในกรณีที่เจอคนที่กำลังหงุดหงิด โมโห หรือไม่พอใจอะไรบางอย่าง เช่น คุณอาจนั่งรถข้างๆ คนขับที่มีรถอีกคันปาดหน้า แล้วคนขับเกิดโมโหขึ้นมาจะไปปาดหน้าคืน คุณอาจพูดว่า Calm Down หรือ Take it easy ซัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้คนขับใจเย็นลงซักหน่อย ไม่วู่วามไปปาดหน้าคืนจนเกิดเรื่องราวใหญ่โตจนเกินไป

Slow down หมายถึง ค่อยๆ ทำ ใช้ในกรณีทีเราต้องการให้ทำอะไรบางอย่างช้าๆ ลงหน่อยเนื่องจากเค้าอาจจะรีบเร่งเกินไป เช่น คนกำลังหัดเล่นเปียโน อาจจะรีบเล่นจนเกินไปจนผิดจังหวะ ผู้สอนอาจจะพูดว่า Slow down ใจเย็นๆ ค่อยเล่น จังหวะจะได้ไม่เพี้ยน หรือ คุณไปเจอใครซักคน พูดเร็วมากๆ จนฟังไม่รู้เรื่อง ก็สามารถใช้วลี Slow down ได้เช่นกัน หรือใครซักคนในครอบครัวคุณเดินเร็วมาก จนคุณเดินตามเค้าไม่ทัน ก็สามารถใช้สำนวนนี้ได้เช่นกัน เพื่อบอกกล่าวว่า เดินช้าๆ หน่อยเถอะ

Go On หมายถึง ดำเนินการต่อ หรือ ทำอะไรบางอย่างต่อ ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนคุณกำลังเล่าเรื่องเกี่ยวกับหนัง The Fast 7 ที่ไปดูมาเมื่อวาน แล้วจู่ๆ เค้าก็เงียบๆ ไป ขณะคุณกำลังลุ้นเรื่องราวที่กำลังเล่าอยู่ คุณอาจจะพูดได้ว่า Hey! Go on  เฮ้ย เล่าต่อดิ เป็นต้น

Hold On หมายถึง แป๊ป ซักครู่นึง รอเดี๋ยว เช่น ใครซักคนโทรมาหาเพื่อนร่วมงานคุณ แล้วบังเอิญไม่อยู่ที่โต๊ะ คุณอาจรับสายแทน คุณอาจพูดว่า Hold on, please รอซักครู่นะคะ/ครับ ก็ได้

Get Out หมายถึง ออกไปเลย มักใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น ใครซักคนพูดไม่เข้าหูคุณในบ้านหรือในพื้นที่ส่วนตัวของคุณ คุณอาจจะเชิญเขาออกไปโดยใช้คำๆ นี้ก็ Get out! เชิญออกด้านนอกไป ประมาณว่าจะไปไหนก็ไป แต่อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้เหม็นขึ้นหน้าหล่ะ

Watch Out หมายถึง ระวัง! ใช้ในกรณีเช่น ใครซักคนกำลังจะเดินเตะกระถางต้นไม้ คุณอาจจะตะโกนเตือนเค้าว่า Watch Out! ระวังพวก (เดี๋ยวกระถางต้นไม้แตก) ก็ได้

หมายเหตุ

ที่มา:  http://www.engvid.com/10-easy-english-commands/
ระดับผู้เรียน: Beginner
อาจารย์ผู้สอน: Rebecca
หมวดหมู่: Speaking, Vocabulary
Tag: คำแปล, ความหมาย, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษ

แปลและเรียงเรียงโดย: ทีไอเอส คอมมิวนิเคชั่น